IF, AND, OR, ฟังก์ชัน IF และ NOT ที่ซ้อนกันใน Excel

สิ่งต่างๆ จะไม่เป็นไปตามที่เราต้องการเสมอไป สิ่งที่ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณต้องหารตัวเลข การพยายามหารตัวเลขใดๆ ด้วยศูนย์ (0) จะทำให้เกิดข้อผิดพลาด ฟังก์ชันตรรกะมีประโยชน์ในกรณีดังกล่าว ในบทช่วยสอนนี้ เราจะพูดถึงหัวข้อต่อไปนี้

ฟังก์ชั่นลอจิกคืออะไร?

เป็นคุณสมบัติที่ช่วยให้เราสามารถแนะนำการตัดสินใจเมื่อดำเนินการตามสูตรและฟังก์ชัน ฟังก์ชั่นถูกใช้เพื่อ;

  • ตรวจสอบว่าเงื่อนไขเป็นจริงหรือเท็จ
  • รวมเงื่อนไขหลายข้อเข้าด้วยกัน

เงื่อนไขคืออะไรและเหตุใดจึงสำคัญ?

เงื่อนไขคือนิพจน์ที่ประเมินว่าเป็นจริงหรือเท็จ นิพจน์อาจเป็นฟังก์ชันที่กำหนดว่าค่าที่ป้อนในเซลล์เป็นประเภทข้อมูลตัวเลขหรือข้อความ หากค่ามากกว่า เท่ากับ หรือน้อยกว่าค่าที่ระบุ เป็นต้น

ตัวอย่างฟังก์ชัน IF

เราจะใช้งบประมาณของใช้ในบ้านจากบทช่วยสอนนี้ เราจะใช้ฟังก์ชัน IF เพื่อพิจารณาว่าสินค้ามีราคาแพงหรือไม่ เราจะถือว่าสินค้าที่มีมูลค่ามากกว่า 6,000 มีราคาแพง สินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 6,000 มีราคาถูกกว่า รูปภาพต่อไปนี้แสดงชุดข้อมูลที่เราจะใช้

ตัวอย่างฟังก์ชัน IF ใน Excel

  • วางเคอร์เซอร์โฟกัสในเซลล์ F4
  • ป้อนสูตรต่อไปนี้ที่ใช้ฟังก์ชัน IF

=IF(E4<6000,”ใช่”,”ไม่ใช่”)

ที่นี่

  • “=ถ้า(…)” เรียกใช้ฟังก์ชัน IF
  • “E4<6000” คือเงื่อนไขที่ฟังก์ชัน IF ประเมิน จะตรวจสอบค่าที่อยู่เซลล์ E4 (ผลรวมย่อย) น้อยกว่า 6,000
  • "ใช่" นี่คือค่าที่ฟังก์ชันจะแสดงหากค่า E4 น้อยกว่า 6,000
  • “ไม่” นี่คือค่าที่ฟังก์ชันจะแสดงหากค่า E4 มากกว่า 6,000

เมื่อเสร็จแล้วให้กดปุ่ม Enter

คุณจะได้รับผลลัพธ์ดังต่อไปนี้

ตัวอย่างฟังก์ชัน IF ใน Excel

อธิบายฟังก์ชันลอจิกของ Excel

ตารางต่อไปนี้แสดงฟังก์ชันลอจิกทั้งหมดใน Excel

S / N ฟังก์ชั่น ประเภท DESCRIPTION การใช้
01 AND ตรรกะ ตรวจสอบหลายเงื่อนไขและส่งกลับค่าจริงหากเงื่อนไขทั้งหมดประเมินว่าเป็นจริง =AND(1 > 0,ISNUMBER(1)) ฟังก์ชันด้านบนส่งคืน TRUE เนื่องจากเงื่อนไขทั้งสองเป็น True
02 FALSE ตรรกะ ส่งกลับค่าตรรกะ FALSE ใช้เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ของเงื่อนไขหรือฟังก์ชันที่คืนค่าจริงหรือเท็จ เท็จ()
03 IF ตรรกะ ตรวจสอบว่าตรงตามเงื่อนไขหรือไม่ หากตรงตามเงื่อนไขก็จะคืนค่าเป็นจริง ถ้าไม่ตรงตามเงื่อนไขก็จะคืนค่าเท็จ
=IF(การทดสอบตรรกะ,[value_if_true],[value_if_false])
=IF(ISNUMBER(22),”ใช่”, “ไม่ใช่”)
22 คือตัวเลขจึงส่งคืนใช่
04 การอ้างอิง ตรรกะ ส่งกลับค่านิพจน์หากไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ก็จะส่งกลับค่าข้อผิดพลาด =IFERROR(5/0,”หารด้วยศูนย์ข้อผิดพลาด”)
05 ไอเอฟเอ็นเอ ตรรกะ ส่งกลับค่าถ้าไม่มีข้อผิดพลาด #N/A เกิดขึ้น หากข้อผิดพลาด #N/A เกิดขึ้น จะส่งกลับค่า NA ข้อผิดพลาด #N/A หมายถึงค่าหากไม่มีในสูตรหรือฟังก์ชัน =IFNA(D6*E6,0)
หมายเหตุ สูตรข้างต้นจะส่งกลับค่าศูนย์หากทั้งคู่หรือ D6 หรือ E6 ว่างเปล่า
06 ไม่ ตรรกะ คืนค่าเป็นจริงหากเงื่อนไขเป็นเท็จ และส่งกลับค่าเท็จหากเงื่อนไขเป็นจริง =ไม่ใช่(ISTEXT(0))
หมายเหตุ ฟังก์ชันข้างต้นคืนค่าจริง เนื่องจาก ISTEXT(0) ส่งคืนค่าเท็จ และฟังก์ชัน NOT จะแปลงค่าเท็จเป็น TRUE
07 OR ตรรกะ ใช้เมื่อประเมินหลายเงื่อนไข คืนค่าเป็นจริงหากเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งหรือทั้งหมดเป็นจริง คืนค่าเท็จหากเงื่อนไขทั้งหมดเป็นเท็จ =หรือ(D8=”ผู้ดูแลระบบ”,E8=”แคชเชียร์”)
หมายเหตุ ฟังก์ชันข้างต้นจะคืนค่าเป็นจริงหากผู้ดูแลระบบหรือแคชเชียร์ D8 และ E8 อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งคู่
08 TRUE ตรรกะ ส่งกลับค่าตรรกะ TRUE ใช้เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ของเงื่อนไขหรือฟังก์ชันที่คืนค่าจริงหรือเท็จ จริง()

ฟังก์ชัน IF ที่ซ้อนกัน

ฟังก์ชัน IF ที่ซ้อนกันคือฟังก์ชัน IF ภายในฟังก์ชัน IF อื่น- คำสั่งซ้อนกันหากมีประโยชน์เมื่อเราต้องทำงานกับเงื่อนไขมากกว่าสองเงื่อนไข สมมติว่าเราต้องการพัฒนาโปรแกรมง่ายๆ ที่จะตรวจสอบวันในสัปดาห์ หากวันนั้นเป็นวันเสาร์เราต้องการแสดง “ปาร์ตี้กัน” ถ้าเป็นวันอาทิตย์เราต้องการแสดง “เวลาพักผ่อน” และหากเป็นวันใดก็ได้ตั้งแต่ Monday ถึงวันศุกร์ที่เราต้องการแสดง อย่าลืมทำรายการสิ่งที่ต้องทำให้เสร็จ

ฟังก์ชัน IF แบบซ้อนกันช่วยให้เราสามารถนำตัวอย่างข้างต้นไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แผนภูมิต่อไปนี้จะแสดงให้เห็นวิธีนำฟังก์ชัน IF แบบซ้อนกันไปใช้

ฟังก์ชัน IF ที่ซ้อนกันใน Excel

สูตรสำหรับผังงานข้างต้นมีดังนี้

=IF(B1=”วันอาทิตย์”,”ถึงเวลาพักผ่อน”,IF(B1=”วันเสาร์”,”ปาร์ตี้กัน”,”รายการสิ่งที่ต้องทำ”))

ที่นี่

  • “=ถ้า(….)” เป็นฟังก์ชัน if หลัก
  • “=IF(…,IF(….))” ฟังก์ชัน IF ที่สองคือฟังก์ชันที่ซ้อนกัน ให้การประเมินเพิ่มเติมหากฟังก์ชัน IF หลักส่งคืนค่าเท็จ

ตัวอย่างการปฏิบัติ

ตัวอย่างการใช้งานจริงของฟังก์ชัน Nested IF

สร้างสมุดงานใหม่และป้อนข้อมูลตามที่แสดงด้านล่าง

ตัวอย่างการใช้งานจริงของฟังก์ชัน Nested IF

  • ป้อนสูตรต่อไปนี้

=IF(B1=”วันอาทิตย์”,”ถึงเวลาพักผ่อน”,IF(B1=”วันเสาร์”,”ปาร์ตี้กัน”,”รายการสิ่งที่ต้องทำ”))

  • ป้อนวันเสาร์ในที่อยู่เซลล์ B1
  • คุณจะได้รับผลลัพธ์ดังต่อไปนี้

ตัวอย่างการใช้งานจริงของฟังก์ชัน Nested IF

ดาวน์โหลดไฟล์ Excel ที่ใช้ในบทช่วยสอน

สรุป

ฟังก์ชันลอจิกใช้เพื่อแนะนำการตัดสินใจเมื่อประเมิน สูตรและฟังก์ชัน ใน Excel